Yearly Archives: 2014

ถ้าตั้งใจเริ่มธุรกิจตั้งแต่อายุยังน้อย ต้องเรียนรู้อะไรบ้าง

shorelinesma.com

การเริ่มต้นธุรกิจต้องทำอย่างจริงจัง จึงจะประสบความสำเร็จ จะเห็นได้จากนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังไม่มาก ทำให้คนวัยหนุ่มสาวเริ่มสนใจที่จะทำธุรกิจของตนเองขึ้น แต่ในความเป็นจริงแล้วการทำธุรกิจต้องอาศัยพลังใจเป็นสิ่งสำคัญ อาศัยการฟังจากผู้ที่เคยประสบความสำเร็จมาก่อน แล้วยึดเป็นแบบอย่าง มีนักธุรกิจที่อายุยังน้อยหลายท่านได้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับธุรกิจของตนไว้มากมาย ในทีนี้จะขอยกตัวอย่างข้อที่สำคัญ และสามารถนำไปปฏิบัติใช้ได้ง่าย

1.ควรรู้ในสิ่งที่ไม่รู้ นักธุรกิจส่วนใหญ่เชื่อว่าที่ประสบความสำเร็จได้เพราะมาจากฝีมือตัวเองทั้งนั้น แต่ในความเป็นจริงแล้วเราจะประสบความสำเร็จได้ต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายๆฝ่าย เพราะไม่มีใครสามารถทำธุรกิจได้ด้วยการเริ่มต้นทำด้วยตัวคนเดียว

2.อย่าให้ความวุ่นวายมาทำลายคุณค่าของคุณ นักธุรกิจหลายคนรู้สึกดีว่าการทำงานที่ยุ่งเป็นความภาคภูมิใจประชุมต่อเนื่อง ทำบางสิ่งบางอย่างตลอดเวลา และรู้สึกดีเหลือเกินที่สามารถทำอะไรได้มากเหลือเกินในเวลาเดียว แต่ในความเป็นจริงแล้วจะประสบความสำเร็จได้นั้นมีน้อยมาก ถึงจะทำงานตลอดเวลาแต่เมื่อเทียบกับผลที่ได้รับกลับไม่คุ้มค่าเลย

3.จงดีต่อทุกคน หลายคนซ่อนความกังวลไว้ภายใต้ใบหน้าที่ยิ้มแย้ม ภายในใจเขาอาจไม่มีความสุขเลย บางคนอาจมีภาระที่ต้องแบกรับ ดังนั้นเราจึงควรถามไถ่ใครสักคนว่าชีวิตเขาเป็นอย่างไรบ้าง

4.จงเก่งเฉพาะทาง อย่าคิดว่าตนเองสามารถทำได้ทุกอย่าง แต่ในความเป็นจริงไม่มีใครทีเก่งไปในทุกเรื่องได้ จงบอกว่าคุณเก่งอะไรแม้ถึงจะเป็นสิ่งน้อยนิดก็ตาม สิ่งนี้จะทำให้คุณได้รับความเชื่อถือมากกว่า เพราะมันเป็นสิ่งที่คุณสามารถทำได้จริงๆ

5.กำไรเป็นสิ่งสำคัญ การสร้างรายได้มหาศาลให้แก่ธุรกิจเป็นสิ่งสำคัญ แต่ถ้าไม่สามารถสร้างผลกำไรได้ตามที่ตั้งไว้นั่นแสดงให้เห็นว่าธุรกิจอาจต้องล้มเหลว เพราะผลกำไรเป็นสิ่งที่บอกว่าธุรกิจของคุณไปในทิศทางใด

หนุ่มสาวหลายคนได้เห็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อย แล้วใช้บุคคลเหล่านี้เป็นแรงจูงใจให้แก่ตนเอง แต่การทำธุรกิจนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย นักธุรกิจหลายคนที่เราได้เห็นเขาต้องฝ่าฟันอุปสรรคมามากมายกว่าจะประสบความสำเร็จได้ และจากที่กล่าวมาข้างต้น เป็นสิ่งที่นักธุรกิจสมัยใหม่ใช้เป็นแนวทางในการประกอบธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ

คุณสมบัติที่ทำให้นักธุรกิจสามารถสร้างตัวได้ตั้งแต่อายุยังน้อย

หลายคนประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจตั้งแต่อายุยังน้อย กลายเป็นมหาเศรษฐีที่มีธุรกิจอยู่มากมาย ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าสนใจมากในปัจจุบัน นักธุรกิจที่อายุยังน้อยเหล่านี้มีเคล็ดลับในการทำงานที่เหมือนๆกัน ผู้ที่สนใจทำธุรกิจสามารถนำไปปรับใช้เพื่อให้ประสบความสำเร็จได้

1.ทำเร็ว เมื่อมีไอเดียดีๆ ต้องรีบทำก่อนที่คนอื่นจะทำไอเดียของคุณให้เป็นจริงก่อน ถ้าคุณรอให้คนอื่นลงมือก่อน คุณอาจไม่มีวันได้สานฝันไอเดียของคุณให้เป็นจริงได้ เพราะฉะนั้น เมื่อมีไอเดียแล้วควรทำทันที

2.สร้างทีม ไม่มีใครเก่งไปซะทุกอย่าง ทุกคนต่างมีความสามารถที่ถนัดของตนเอง คุณต้องสร้างทีมของคุณที่มีความแข็งแกร่งคอยช่วยเหลือในด้านต่างๆ เพราะไม่มีใครสามารถสร้างขึ้นมาได้เพียงคนเดียว

3.อย่าหยุดอยู่กับที่ ต่อยอดความสำเร็จไปเรื่อยๆ จะเห็นได้ว่านักธุรกิจหลายรายเมื่อประสบความสำเร็จแล้ว แต่พวกเขาก็ยังไม่หยุดที่จะพัฒนาหรือลงมือทำสิ่งใหม่ๆเลย เขานำความสำเร็จที่เกิดขึ้น สร้างความสำเร็จต่อไป

4.ยึดมั่นในความคิดของตนเอง มีนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จเลือกที่จะทำตามความฝันของตนเอง โดยไม่ฟังเสียงคัดค้านของคนที่ไม่เห็นด้วย และพวกเขาก็ประสบความสำเร็จ เพราะความเชื่อมั่นในความคิดของตนเอง

5.คิดให้ใหญ่ไว้ก่อน นักธุรกิจเหล่านี้ไม่เคยฝันอะไรเล็ก และไม่เคยกลัวความฝันของตนเอง ในทุกๆวันพวกเขาจะทำสิ่งเล็กๆที่มีเป้าหมายใหญ่เสมอ

6.ทำสิ่งที่รัก คนเราจะประสบความสำเร็จได้ ไม่ใช่ทำสิ่งที่ตนเองไม่ชอบ หรือฝืนทำ แต่เขาต้องทำในสิ่งที่เขาสนใจ สิ่งที่เขารัก เพราะบางที การที่ไอเดียหนึ่งๆ ดีนั้น แต่มันอาจจะไม่ได้เหมาะกับทุกคน

7.มีความมุ่งมั่น นักธุรกิจเหล่านี้มีเป้าหมายเดียว และมีการตัดสินใจเพื่อเป้าหมายเดียวเท่านั้น และนั่นทำให้พวกเขามีวันนี้

8.รักที่จะเรียนรู้ เมื่อประสบความสำเร็จแล้วพวกเขาไม่เคยคิดที่จะหยุดเรียนรู้ พวกเขารักในการเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา และเปิดรับฟังความคิดเห็นจากที่อื่นๆอยู่เสมอ พวกเขาเชื่อว่าการเปิดรับไอเดียจากผู้อื่นเป็นสิ่งที่ดีที่สุด

9.รักที่จะสอนงานให้กับผู้อื่น พวกเขาจะถ่ายทอดงานให้กับผู้อื่นอยู่เสมอ เพราะพวกเขาเชื่อว่าจะทำให้ทีมมีความแข็งแกร่งขึ้นด้วย รวมทั้งช่วยสร้างความสัมพันธ์ของคนในทีม

10.ไม่เคยกลัวที่จะล้มเหลว ใส่ใจความล้มเหลว และนำความล้มเหลวมาเรียนรู้ ทำให้ก้าวหน้าต่อไปได้

กลยุทธ์ในการทำธุรกิจครอบครัวเพื่อป้องกันการเกิดปัญหากันในครอบครัว


หลายคนที่คิดกำลังจะสานต่อธุรกิจครอบครัว หรือใครก็ตามที่กำลังทำธุรกิจกับครอบครัวอยู่  เรามีเกร็ดความรู้ที่เกี่ยวกับการทำธุรกิจครอบครัวมาฝาก
ธุรกิจครอบครัวคือ ธุรกิจที่หุ้นของกิจการมากกว่าครึ่งหนึ่งเป็นเจ้าของโดยสมาชิกของครอบครัวใดครอบครัวหนึ่ง หรือธุรกิจที่มีการสืบทอดมาสู่ลูกหลานอีกรุ่นหนึ่ง

ประโยชน์ของธุรกิจครอบครัว
– มีมุมมองเดียวกัน ทุกคนมีส่วนร่วมในอุดมการณ์และความเชื่อในสิ่งที่ควรทำเหมือนๆ กัน ซึ่งจะทำให้เกิดความรู้สึกพิเศษที่มุ่งมั่นและภาคภูมิใจ ที่เป็นข้อได้เปรียบทางการแข่งขันของธุรกิจ
– สามารถทุ่มเทกับการทำงานได้อย่างเต็มที่ ในการทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จได้จำเป็นต้องใช้เวลาและความพยายามสูง ซึ่งในกรณีของธุรกิจครอบครัว จะมีความเข้าอก เข้าใจเป็นพิเศษสำหรับวิธีการทำงานที่ทำให้แต่ละคนสามารถมีความยืดหยุ่นในเรื่องของเวลามากขึ้น
– ความซื่อสัตย์ ความสัมพันธ์ส่วนตัวที่เข้มข้น หมายถึง การที่ทุกคนในครอบครัวจะยึดติดกันไว้แม้ในยามยาก รวมทั้งแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจอย่างแน่วแน่ที่จะทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จได้
– ความมั่นคง ความเป็นธุรกิจครอบครัวทำให้ทุกคนตระหนักดีว่าจะต้องเก็บธุรกิจนี้ไว้ให้รุ่นลูกหลานสืบต่อไป ซึ่งจะเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดความคิด การวางแผนให้ธุรกิจเติบโต และประสบความสำเร็จในระยะยาว
– ต้นทุนลดลง สมาชิกของครอบครัวบางครั้งอาจยอมสละผลประโยชน์ทางการเงินบางส่วนเพื่อให้ธุรกิจอยู่ได้ ตัวอย่างเช่น การยอมรับค่าจ้างที่ต่ำกว่าการไปทำงานที่อื่น หรือยังไม่รับเงินเดือนในช่วงที่เกิดปัญหาทางการเงิน เป็นต้น

อะไรที่ควรคำนึงถึงในการทำธุรกิจครอบครัว
ก่อนที่จะตัดสินใจทำธุรกิจครอบครัว มีประเด็นที่อาจต้องเผชิญ ต้องคำนึงถึง และตัดสินใจ ดังนี้
• หุ้นทางธุรกิจจะถูกนำมาจัดสรรระหว่างสมาชิกในครอบครัวและถ้ากรณีมีบุคคลอื่นมาถือหุ้นด้วย ต้องแน่ใจว่าการตัดสินใจจะอยู่บนพื้นฐานของเหตุผลทางธุรกิจมากกว่าเหตุผลส่วนตัว
• บทบาทและความรับผิดชอบจะแตกต่างกันระหว่างผู้ถือหุ้นภายในครอบครัวซึ่งมีบทบาทมากในธุรกิจกับบางคนที่ไม่ใส่ใจ รวมถึงผู้ถือหุ้นจากภายนอก การให้ผลตอบแทนแก่สมาชิกในครอบครัวตามบทบาทและความรับผิดชอบที่มีอยู่อาจก่อให้เกิดปัญหาได้
• บางครั้งอาจต้องเผชิญกับความขัดแย้งที่เกิดจากอารมณ์ ความรู้สึก ที่มาพร้อมกับทางด้านธุรกิจ ผู้ทำหน้าที่บริหารต้องแสดงความรู้สึกทั้งในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว ในขณะเดียวกับที่ต้องทำตัวเป็นเจ้านายเขาด้วย นอกจากนั้น ต้องพยายามหลีกเลี่ยงความขัดแย้งกับคนที่พิจารณาแล้วว่ามีส่วนต่อความสำเร็จในการทำธุรกิจ
• ต้องทำให้เกิดความมั่นใจได้ว่าการเงินของครอบครัวจะไม่ขึ้นอยู่กับธุรกิจทั้งหมด

ปัญหาใหญ่ที่ไม่ควรมองข้ามและนำมาสู่การแก้ไข
การทำธุรกิจครอบครัวเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน การผสมผสานระหว่างอารมณ์ ความรู้สึกกับการดำเนินธุรกิจอาจทำให้เกิดความขัดแย้งเกิดขึ้นได้บ่อยครั้ง ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นสามารถมองในทางบวกว่าเป็นสิ่งที่ท้าทายที่นำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลง หากสามารถหลีกเลี่ยงหรือจัดการกับความขัดแย้งนั้นได้ โดยลองใช้วิธีที่จะแนะนำดังต่อไปนี้
– ลองคิดดูว่าคนในธุรกิจมีการติดต่อสื่อสารกันอย่างไร มีการแยกแยะระหว่างเรื่องความรู้สึกส่วนตัวกับเรื่องงานหรือไม่ มีกระบวนการทำงานในองค์กรที่เอื้ออำนวยต่อบุคลากรอื่นนอกเหนือจากสมาชิกของครอบครัวได้แสดงความคิดเห็น รวมทั้งสังเกตดูว่ามีใครในองค์กรที่มีแนวโน้มที่จะครอบงำความคิดของผู้อื่น
– วิธีการที่ดีที่สุดในการหลีกเลี่ยงความขัดแย้งคือ การป้องกันความเข้าใจผิดจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งแรก หรือคำโบราณที่เรียกว่า “ตัดไฟแต่ต้นลม” การมีธรรมนูญที่ใช้เป็นข้อปฏิบัติของครอบครัวจะช่วยแก้ไขปัญหานี้ได้
– จัดให้มีการประชุมร่วมกันระหว่างผู้บริหารธุรกิจ เพื่อลดปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้นโดยใช้เสียงข้างมากในการตัดสินใจเป็นหลัก
– ถ้าเกิดเหตุรุนแรงจนไม่สามารถแก้ไขได้ อาจต้องพึ่งที่ปรึกษา ผู้เชี่ยวชาญจากภายนอกมาทำหน้าที่เป็นเสมือนตัวกลางไกล่เกลี่ยข้อพิพาทที่เกิดขึ้น
– ต้องใช้การสื่อสารเป็นเครื่องมือในการลดปัญหาความขัดแย้ง ซึ่งอาจทำได้โดย การไม่พูดถึงเรื่องส่วนตัวในที่ประชุม สร้างกลไกในการมีส่วนร่วมอย่างสร้างสรรค์ของทุกฝ่ายเพื่อลดความรู้สึกการไม่มีส่วนร่วมของบุคลากรที่ไม่ใช่ในครอบครัว จัดให้มีการประชุมสัมมนานอกรอบอย่างไม่เป็นทางการบ้างเพื่อคุยในเรื่องของทิศทางและกลยุทธ์องค์กร หรือแต่งตั้งที่ปรึกษาที่มีประสบการณ์สำหรับทำหน้าที่เสมือนตัวกลางเพื่อลดความกดดันจากการประชุม หารือเรื่องธุรกิจลง

 

การทำธุรกิจครอบครัว เพิ่มโอกาสในการก่อร่างสร้างตัว เลี้ยงชีพ คนในครอบครัว


การลงมือประกอบธุรกิจที่ใช้ลักษณะการบริหารและจัดตั้งในรูปแบบครอบครัวนั้น ถือว่าเป็นวิธีการทำธุรกิจที่ได้รับความนิยมกันมายาวนาน เพราะมีจุดเริ่มต้นที่คุ้มค่าและต้นทุนต่ำกว่าการทำธุรกิจในรูปแบบที่ดำเนินการทุกอย่างด้วยตนเองทั้งหมดค่อนข้างมาก ซึ่งธุรกิจที่ดำเนินการบุกเบิกด้วยตนเองทั้งหมดมีโอกาสที่จะเกิดข้อผิดพลาดได้ค่อนข้างสูงและเมื่อเกิดปัญหาขึ้นทางเลือกที่ใช้ในการแก้ปัญหาก็มีค่อนข้างน้อยเมื่อเปรียบเทียบกับการทำธุรกิจรูปแบบครอบครัว

ด้วยเหตุนี้การทำธุรกิจในลักษณะของกิจการที่เป็นของครอบครัวจึงเป็นรูปแบบที่ยึดครองหัวใจของผู้ประกอบการหลายคน และมักจะเป็นตัวเลือกของความมั่นคงในชีวิตอันดับแรกๆที่ผู้เป็นหัวหน้าครอบครัวมักจะนำมาส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่นถึงสมาชิกในครอบครัวคนอื่นๆเพื่อสืบทอดต่อกันไป ซึ่งการทำธุรกิจในรูปแบบครอบครัวนี้มีทั่งข้อดีจะขอนำเสนอข้อดีก่อนเป็นอย่างแรก ซึ่งข้อดีของธุรกิจแบบครอบครัวนั้นมีดังนี้

ได้ความร่วมมืออย่างเต็มที่จากทุกฝ่าย
เป็นข้อดีที่ผู้ประกอบการอาจจะหาไม่ได้เลยหากต้องไปจัดตั้งธุรกิจในรูปแบบอื่นๆที่ความก้าวหน้าของธุรกิจต้องไปฝากเอาไว้ที่ลมหายใจของคนอื่นในลักษณะของเจ้านายกับลูกน้อง ซึ่งบางครั้งลูกน้องที่อยู่ใต้การบังคับบัญชาของท่านอาจจะไม่ยอมลงแรงเต็มร้อยเพราะพวกเขาคิดว่าความสำเร็จไม่ได้มีส่วนทำให้ชีวิตของเขาดีขึ้น แต่ปัญหาลักษณะนี้จะเกิดขึ้นกับธุรกิจที่ดำเนินการในรูปแบบของครอบครัวน้อยกว่า เพราะด้วยรูปแบบของธุรกิจครอบครัวก็บ่งบอกด้วยตัวมันเองอยู่แล้วว่าสมาชิกทุกคนของครอบครัวมีส่วนร่วมและมีความเป็นเจ้าของในอัตราที่อย่างน้อยก็เท่าๆกัน สำนึกในความเป็นเจ้าของจึงเกิดและจะเป็นสิ่งนำพาให้สมาชิกทุกคนในครอบครัวทำหน้าที่ที่ตนเองได้รับมอบหมายอย่างดีที่สุด เพื่อความสำเร็จของธุรกิจที่ทุกคนต่างมีจุดร่วมเดียวกันในอนาคตนั่นเอง

ทำงานแบบใจถึงใจ
เพราะความที่ผู้บริหารและสมาชิกต่างเป็นบุคคลในครอบครัวเดียวกัน การมอบหมายงานในเรื่องต่างๆจึงสามารถทำได้ง่ายและเข้าใจรวดเร็วกว่าการมอบหมายงานผ่านพนักงานที่เป็นคนนอก อีกทั้งผลงานที่ปรากฎออกมาจะมีคุณภาพดีกว่าด้วยในระดับหนึ่ง อันเป็นผลมาจากการทุ่มเททำงานหนักของสมาชิกในครอบครัวผู้เป็นทั้งพนักงานและเจ้าของร่วมในคราวเดียวกัน

มีทางเลือกในการแก้ไขปัญหาที่หลากหลาย
ปัญหาถือเป็นเรื่องปกติในการทำธุรกิจแต่ประเด็นที่สำคัญกว่าก็คือการแสวงหาทางออกให้กับปัญหา ซึ่งการทำธุรกิจในลักษณะครอบครัวนั้นแน่นอนว่าทุกคนในบริษัทต่างก็มีที่มาจากต้นตระกูลเดียวกัน ความช่วยเหลือในการแก้ไขปัญหาจึงมีทางออกมากขึ้นกว่าเดิมเป็นพิเศษ เพราะทุกคนต่างมุ่งแสวงหาทางออกที่ดีที่สุดเพราะทุกคนต่างก็มีสามัญสำนึกถึงความมีส่วนร่วมในองค์กร ความช่วยเหลือจึงหลั่งไหลมาจากทั่วทุกสารทิศภายในบริษัท

มีวัฒนธรรมในองค์กรเฉพาะตัว
เพราะความที่คณะผู้บริหารหรือพนักงานฝ่ายอื่นๆในบริษัทต่างเป็นคนคุ้นเคยกันทั้งนั้น ด้วยเหตุนี้วัฒนธรรมการทำงานในองค์กรจึงเกิดขึ้นโดยปริยายซึ่งมันก็ถือเป็นผลดีต่อการทำงานในบริษัทด้วย เพราะทุกคนจะรู้หน้าที่และมารยาทของการทำงานในหน้าที่ของตนว่าควรที่จะอยู่ ณ จุดไหนจึงจะเหมาะสม อีกทั้งการว่ากล่าวตักเตือนเมื่อทำงานผิดพลาดก็สามารถกระทำได้โดยง่ายกว่า ทั้งผู้บริหารในระดับบนขององค์กรสามารถลงมาบังคับบัญชาลูกน้องได้ด้วยตนเอง ซึ่งข้อดีตรงนี้ส่งผลให้การดำเนินงานของบริษัทมีประสิทธิภาพและใช้เวลาในการทำงานน้อยลงอีกด้วย

ความลับบริษัทไม่มีวันรั่วไหล
ผู้ประกอบการทุกคนต่างรู้ดีว่าความลับในการทำธุรกิจถือเป็นเรื่องสำคัญที่ทุกคนภายในบริษัทจะต้องช่วยกันเก็บรักษาเอาไว้ไม่ให้เรื่องรั่วไหลออกไปสู่ภายยนอก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการรั่วไปอยู่ในมือของคู่แข่งซึ่งถือเป็นเรื่องที่อันตรายมากที่สุด แต่ถ้าหากผู้ประกอบการเลือกวิธีทำธุรกิจในลักษณะครอบครัวปัญหาก็จะมีโอกาสเกิดน้อยกว่า เพราะบุคคลในครอบครัวคือผู้ที่ผู้ประกอบการสามารถไว้วางใจและเชื่อได้ว่าพวกเขาจะไม่นำเอาความลับของบริษัทไปเปิดเผยสู่ภายนอกอย่างเด็ดขาดเพราะถือเป็นการบ่อนทำลายธุรกิจของครอบครัวตนเอง

เงินทองไม่รั่วไหล
ด้วยความที่ผู้บริหารหรือพนักงานต่างก็เป็นญาติมิตรหรือบุคคลภายในครอบครัวด้วยกัน จึงเป็นไปได้ยากที่เงินทองจะรั่วไหลออกไปสู่ภายนอกโดยที่ผู้ประกอบการไม่รู้ตัว ดังนั้นท่านจึงสบายใจได้ในว่าทรัพย์สินจะไม่หายไปไหน เพราะสุดท้ายแล้วมันก็ยังหมุนเวียนอยู่ในบริษัทไม่มีทางเปลี่ยนมือไปอยู่กับบุคคลนอกได้อย่างแน่นอน