เลือกผ้าม่านอย่างไรให้เหมาะสมกับคุณ

การเลือกสรรผ้าม่าน ด้วยความปั่นป่วนตามความนิยม ความฉลาดความตระหนัก อาจต่างจากอดีต การเปลี่ยนแปลงเป็นเรื่องธรรมชาติ ผ้าม่านทุกวันนี้ อาจต่างจากเมื่อก่อน ทั้งในด้านของโครง ด้วยกันสีสัน ครั้งหลังคนโดยมากมักการตั้งกฎเกณฑ์เลือกผ้าม่านที่มีโทนสีเข้มพร้อมด้วยสีสด เช่นสีแดง สีน้ำเงิน สีเขียว สีส้ม เหตุเพราะกลัวผ้าซีดและเก่าเร็ว กับเพื่อการใช้งานที่คุ้ม ต้องกันแดด กันแสงได้ดี โดยเชื่อว่าสีเข็มจะทำให้ผ้าดูซีดน้อยกว่าผ้าสีอ่อนเมื่อใช้ไประยะเวลานานๆ เนื้อผ้าต้องเป็นหนามากๆ  เชื่อว่าจะได้ความคงทน อายุการใช้งานที่ยาวนานคุ้มค่าคุ้มราคากว่า นั้นคือมโนทัศน์และความนิยมในหนหลังที่ผ่านมา  ต่อมาแง่มุมนั้นเริ่มเปลี่ยน เหตุเพราะในสมัยนี้ คนเป็นส่วนใหญ่มีความเห็นในเรื่องของเนื้อผ้าและโทนสีมากขึ้น โดยเฉพาะเรื่องของสี ซึ่งสีนั้นมีเงื้อมมือ พร้อมด้วยมีผลต่อจิตใจความเข้าใจของเรา  การเลือกเฟ้นผ้าม่านจึงมีความลงตัว มีสวยงามขึ้น ทำให้ได้ผ้าม่านเกิดความแตกต่างจากเมื่อก่อน ได้บรรยากาศ ได้อารมณ์ ความเห็นที่ดีขึ้น

ในสมัยนี้ สีที่ได้รับค่านิยม ได้แก่สีที่ดูอบอุ่น คือสีโทน น้ำตาล ทั้งอ่อนพร้อมทั้งเข้มและสีใกล้เคียงเช่น สีเบจ สีครีม สีเทา หรือสีที่มองแล้วที่ให้ความรู้สึก กลมกล่อม อบอุ่น ละเมียด สบายๆ ด้วยเหตุของสี ที่มีส่วนสร้างบรรยากาศ

เหตุด้วยผ้ามักการตั้งกฎเกณฑ์เลือกเป็นผ้าพื้นสี ที่มีการให้สี หรือออกแบบสีอย่างพิถีพิถัน ให้อารมณ์ของสี เข้ากับยุคสมัย โดยผ้าที่มีน้ำหนัก มีความพริ้วไหว ทิ้งตัวดี โดยที่ไม่จำเป็นเสมอไป ที่ต้องเป็นผ้าเนื้อหนา ยุคปัจจุบัน ผ้าม่านมีการนำเข้าจากพิเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศจีน เป็นผ้าหน้ากว้าง ซี่งลงตัวเป็นอย่างมาก การตัดเย็บโดยไม่ต้องต่อผ้าในส่วนสูงปรกติของบ้านทั่วไป ให้ความสุภาพ น่าพึงพอใจ รวมทั้งเรื่องของราคาที่ถูกลงเมื่อเทียบกับเมื่อก่อน หน้ากว้างผ้าที่ทอได้ไม่เกิน150 ซม. แต่ปัจจุบัน เป็นหน้ากว้าง 280-300 ซม. แถมราคาเท่าเดิมหรือถูกลงกว่าเดิมมากกว่าเท่าตัว นั้นหมายความว่า การทำผ้าม่านทุกวันนี้ถูกลงกว่าเมื่อ10 ปีก่อน พร้อมด้วยยังได้คุณค่าอื่นตามมา เช่น การกันแสง (ที่ก่อนหน้านี้ ผ้ากันแสงต้องใช้ผ้าฉาบปรอท เอามาแปะติดด้านหลังผ้าม่าน) ที่ราคาค่อนข้างสูง